รู้หรือไม่? น้ำหอมทำให้มีลูกยาก

คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายหลายคนอาจคิดว่าภาวะมีบุตรยากนั้นมาจากสาเหตุที่เกิดขึ้นภายในร่างกายเท่านั้น แต่อาจลืมมองไปว่าวิถีชีวิตประจำวันของเรานั้นก็สามารถเป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยากได้เช่นกัน เช่น การใช้น้ำหอมเองก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ ทำให้สเปิร์มและรังไข่เกิดความผิดปกติ วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า น้ำหอมทำให้มีลูกยาก ได้อย่างไร อย่ารอช้า เรามาหาคำตอบกันเลยดีกว่า

ในน้ำหอมมีอะไร? ที่ทำให้มีลูกยาก

เมื่อเราอ่านฉลากที่ติดข้างขวดน้ำหอมแล้วจะเห็นได้ว่ามีส่วนประกอบหลายอย่างที่เป็นสารเคมี ซึ่งตอนซื้อน้ำหอมนั้น บางคนเลือกจากกลิ่นที่ตนเองชอบ แต่ไม่ได้ดูฉลากเลยว่ามีส่วนประกอบอะไรในขวดบ้าง โดยสารเคมีสังเคราะห์ที่อยู่ในน้ำหอมมีด้วยกันหลายตัว โดยเฉพาะ Phthalate (พาทาเลท) เป็นส่วนประกอบที่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ของคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย ซึ่งอาจนำไปสู่การมีลูกยากนั่นเองค่ะ

Phthalate คืออะไร?

Phthalate เป็นกลุ่มสารเคมีประเภทหนึ่งที่ใช้ในการผลิตพลาสติกให้มีความยืดหยุ่นและไม่แตกหักง่าย และยังถูกนำมาใช้เป็นตัวทำละลายในการผลิตวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พื้นไวนิล, กาว แชมพู, สบู่ และ น้ำมันหล่อลื่น เป็นต้น โดยสารเคมีตัวนี้มักถูกนำมาใช้ในการผลิตน้ำหอมเพื่อให้กลิ่นอยู่ได้นานขึ้น

ทำไม Phthalate ถึงทำให้มีลูกยาก?

สิ่งที่คุณผู้หญิงต้องรู้ก่อนมีลูก

สำหรับคุณผู้หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์นั้นควรทราบว่า Phthalate นั้นมีผลต่อการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อและระบบสืบพันธุ์ได้ เนื่องจากสารดังกล่าวส่งผลต่อฮอร์โมนไทรอยด์ ทำให้รังไข่ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้จำนวนไข่น้อย ไข่ตกผิดปกติ และทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติด้วยเช่นกัน ในคุณผู้หญิงที่ทำเด็กหลอดแก้ว มีวิจัยพบว่า กลุ่มที่มีการใช้สารปนเปื้อนพาทาเลท เก็บไข่ได้จำนวนน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้สารปนเปื้อนพาทาเลท

สิ่งที่คุณผู้ชายต้องรู้ก่อนมีลูก

ผลเสียของการใช้น้ำหอมที่มี Phthalate นี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้กับคุณผู้ชายด้วยเช่นกันค่ะ เนื่องจากทำให้อสุจิผลิตได้จำนวนที่น้อยลง ส่งผลทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก

 สิ่งที่คุณแม่ต้องรู้

อีกทั้งสำหรับคุณผู้หญิงที่ตั้งครรภ์แล้วอาจคิดว่าการใช้น้ำหอมที่มี Phthalate ไม่ได้ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ แต่อย่าพึ่งชะล่าใจค่ะ เพราะสารเคมีตัวนี้สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อการเจริญเติบโตของทารกในท้องได้เช่นเดียวกัน  ดังนั้นในคุณผู้หญิงที่ตั้งครรภ์จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพาทาเลท

ที่จริงแล้ว Phthalate ไม่ได้มีอยู่แค่ในน้ำหอม

เมื่อเรามองของใช้รอบตัวนั้นจะเห็นได้ว่าน้ำหอมถูกใช้ในทั้งผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล เช่น น้ำหอม, แชมพู, ครีมนวด, โลชั่นทาผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาทำความสะอาดพื้น, น้ำยาเช็ดกระจก, น้ำยาเช็ดเตาแก็ส และผลิตภัณฑ์ดูแลเสื้อผ้า เช่น ผงซักผอก, น้ำยาซักผ้า, น้ำยาปรับผ้านุ่ม รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีส่วนประกอบของ Dibutyl Phthalate (DBP), Di-2-Ethylhexylphthalate (DEHP) Diethyl Phthalate (DEP) หรือเป็นส่วนประกอบที่มีชื่อ Phthalate ต่อท้ายนั้นล้วนเป็นกลุ่มสารเคมีจาก Phthalate เพราะฉะนั้น Phthalate จึงไม่ได้อยู่ในน้ำหอมจากขวดที่คุณใช้เท่านั้น แต่ยังอยู่ในของใช้รอบตัวด้วยเช่นกันค่ะ

อยากมีลูกต้องงดใช้น้ำหอมเลยหรือเปล่า?

จากที่เราทราบกันไปว่า Phthalate ในน้ำหอมนั้นสามารถเป็นสาเหตุหนึ่งของการมีลูกยาก เพราะฉะนั้นหากคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายที่ชอบใช้น้ำหอมสามารถเลือกใช้น้ำหอมที่ไม่มี Phthalate (Phthalate Free) หรือเป็นน้ำหอมจากธรรมชาติได้ เช่น การเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ (Essential Oil) แม้ว่ากลิ่นอาจจะไม่ได้หอมแบบที่ชอบ แต่เหมาะกับคนที่ต้องการวางแผนมีบุตรแน่นอนค่ะ

นอกจากการหลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมที่มี Phthalate แล้ว คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายที่ต้องการมีบุตรควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมี เนื่องจากอาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ ระบบฮอร์โมน และระบบภูมิคุ้มกันได้นั่นเองค่ะ

แหล่งอ้างอิงข้อมูล:

https://www.cdc.gov/biomonitoring/phthalates_factsheet.html

https://www.madesafe.org/science/hazard-list/phthalates/

เรียบเรียงโดย: ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ SAFE Fertility Group