สาวๆ ยุคใหม่หรือคุณผู้หญิงหลายคนที่วางแผนแต่ยังไม่ต้องการตั้งครรภ์หรืออาจจะด้วยเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ในช่วงเวลาที่กำลังมาถึงเร็วๆ นี้ การฝากไข่เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณผู้หญิงหลายคนสามารถวางแผนการตั้งครรภ์ในอนาคตที่สะดวกหรือต้องการได้ เพื่อให้คุณผู้หญิงมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการฝากไข่มากขึ้น SAFE Fertility Group จึงนำข้อมูลเกี่ยวกับการฝากไข่มาให้ได้อ่านกัน
การฝากไข่ คือ การแช่แข็งเซลล์ไข่ หรือที่เราเรียกว่า Oocyte Cryopreservation เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยรักษาคุณภาพเซลล์ไข่ของคุณผู้หญิงโดยการเก็บรักษาไข่นี้เป็นการทำหัตถการเพื่อเก็บเซลล์ไข่จากรังไข่แล้วนำมาแช่แข็งไว้เพื่อนำไปใช้ในอนาคต ไข่ที่แช่แข็งนี้สามารถนำมาละลายและนำไปปฏิสนธิกับอสุจิ ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF/ICSI ได้
การฝากไข่นี้เป็นการแช่แข็งเพียงแค่เซลล์ไข่เท่านั้น ซึ่งมีความแตกต่างกับการแช่แข็งตัวอ่อนที่มาจากการปฏิสนธิระหว่างเซลล์ไข่กับอสุจิ เพราะกระบวนการนี้จะเป็นกระบวนการแช่แข็งตัวอ่อนหรือที่เราเรียกว่า Embryo Cryopreservation
โดยกระบวนการฝากไข่ที่ SAFE Fertility Group จะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผุ้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
การฝากไข่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ในขณะนี้ หรือในเร็ว ๆ นี้ แต่ยังมีความต้องการที่จะตั้งครรภ์ในอนาคตนั่นเอง และการฝากไข่ยังเป็นทางเลือกของคุณผู้หญิงที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ในสถานการณ์ปัจจุบันด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น
โรคประจำตัว และกระบวนการรักษาโรคเหล่านั้นอาจมีผลต่อการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง เช่น มะเร็งรังไข่ ซีสที่มดลูก/รังไข่ การผ่าตัดรังไข่เพื่อรักษาโรค ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร การฉายแสงหรือการทำเคมีบำบัดในขั้นตอนการรักษาโรคมะเร็งก็สามารถเป็นอันตรายภาวะเจริญพันธุ์ได้เช่นกัน โดยการฝากไข่ก่อนการรักษาตัวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้คุณผู้หญิงสามารถมีลูกด้วยเซลล์ไข่ของตัวเองได้ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการรักษา
ยิ่งฝากเร็ว ยิ่งดี สาวๆ หลายคนยังสนุกกับการใช้ชีวิตที่อิสระได้เต็มที่กับงาน การท่องเที่ยว มีความพร้อมในการมีบุตรและการแต่งงานที่ช้าลง และเมื่อพร้อมสร้างครอบครัวก็อาจเป็นตอนที่อายุมากแล้ว ซึ่งการวางแผนฝากไข่ไว้ตั้งแต่ในช่วงอายุยังน้อย เป็นทางเลือกที่ให้คุณผู้หญิงได้มีเซลล์ไข่คุณภาพแช่แข็งไว้เพื่อใช้ตั้งครรภ์ในวันที่พร้อมได้
อาจด้วยโรคทางพันธุกรรมทำให้คุณผู้หญิงบางคนวางแผนที่จะมีลูกด้วยการทำเด็กหลอดแก้วในอนาคตเมื่อตนเองพร้อม ซึ่งสามารถฝากแช่แข็งเซลล์ไข่เอาไว้เพื่อใช้ในการทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI) ได้ในอนาคต
การใช้ยาที่เกี่ยวข้องกับภาวะเจริญพันธุ์ เช่น ฮอร์โมนกระตุ้นไข่ หรือ ฮอร์โมนลูเทนไนซิ่ง ในการกระตุ้นการตกไข่นี้สามารถทำให้รังไข่บวมหรือเกิดอาการเจ็บปวดหลังจากที่ได้ทำการเก็บไข่ไปแล้ว โดยอาการอาจมีทั้ง ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วง ได้เช่นกัน
ในการทำหัตถการโดยการใช้เข็มดูดเซลล์ไข่ออกจากรังไข่นั้นอาจมีเกิดผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการเลือดออกรวมถึงการติดเชื้อในช่องท้องและอาจกระทบต่ออวัยวะข้างเคียง เช่น ลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ และเส้นเลือด
จากที่คุณผู้หญิงได้เก็บไข่ไปแล้ว อาจมีการตั้งความคาดหวังสูงในการตั้งครรภ์ รวมถึงการสะสมความเครียดจากการวางแผนตั้งครรภ์ ซึ่งหลังเสร็จสิ้นกระบวนการเก็บไข่แล้วก็อาจทำให้เกิดความแปรปรวนทางด้านอารมณ์ได้เช่นเดียวกัน
SAFE FertilityGroup เราเข้าใจดีว่าอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณผู้หญิงหลังการเก็บไข่ ซึ่งในกระบวนการเก็บไข่แต่ละครั้งของคุณผู้หญิงแต่ละคนนั้นจะมีการใช้ปริมาณยาและการดูแลตัวเองที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นในทุกขั้นตอนตลอดกระบวนการต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
คุณผู้หญิงหลายคนอาจเข้าใจว่าการฝากไข่นั้นสามารถทำได้เลยทันทีหลังจากที่เข้าพบแพทย์ แต่อันที่จริงแล้วแพทย์ต้องประเมินและตรวจสุขภาพของคุณผู้หญิงก่อนเริ่มกระบวนการ โดยเป็นการตรวจ 3 ประเภท ดังต่อไปนี้
1. ซักประวัติเบื้องต้น
แพทย์และพยาบาล จะทำการซักประวัติเบื้องต้นทั้ง ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ความดันโลหิต โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ประวัติการตั้งครรภ์ และประวัติรอบประจำเดือนของคุณผู้หญิง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการรักษา
2. ตรวจเช็คสภาพและคุณภาพรังไข่
สำหรับการเช็คจำนวนฟองไข่และสภาพรังไข่ จำเป็นที่จะต้องมีการอัลตราซาวด์และตรวจเช็คฮอร์โมน เพื่อนำไปร่วมประเมินปริมาณยาในการกระตุ้นไข่ได้
3. ตรวจคัดกรองโรค
เพื่อให้คุณผู้หญิงมีความมั่นใจในการตั้งครรภ์ว่าเซลล์ไข่ที่นำมาฝากไว้กับคุณหมอนั้นจะเป็นเซลล์ไข่ที่มีคุณภาพและไม่ได้เป็นการตั้งครรภ์ที่ทำให้ทารกติดเชื้อจากโรคติดต่อ คุณหมอจะทำการตรวจคัดกรองโรคติดต่อที่สามารถแพร่จากแม่สู่ลูกได้ เช่น การตรวจ HIV และ ไวรัสตับอักเสบชนิด B และชนิด C เป็นต้น
หลังจากจากผ่านขั้นตอนการตรวจร่างกายแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการฝากแช่แข็งเซลล์ไข่ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ
1. ขั้นตอนกระตุ้นรังไข่
ในการกระตุ้นรังไข่นี้แพทย์จะให้คุณผู้หญิงใช้ฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่ที่ปริมาณเหมาะสมและเพียงพอต่อการเก็บ ด้วยการใช้ยาในการกระตุ้นรังไข่ และการใช้ยาเพื่อป้องกันการตกไข่ก่อนกำหนด ซึ่งปริมาณยาจะแตกต่างตามสุขภาพร่างกายของแต่ละคน ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
ระหว่างการกระตุ้นรังไข่นี้แพทย์จะมีการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำมาเช็คการตอบสนองต่อยากระตุ้นรังไข่ที่ได้รับไปด้วย โดยจะเป็นการเช็คระดับฮอร์โมนต่างๆ โดยปกติแล้วระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะสูงขึ้นเมื่อเซลล์ไข่ถูกผลิต และระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะอยู่ในระดับต่ำคงที่ไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ไข่ตก และติดตามด้วยการอัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจดูการเจริญเติบโตของฟองไข่ร่วมด้วย
2. ขั้นตอนเก็บไข่
เมื่อเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนของการเก็บไข่ จะดำเนินการทำหัตถการโดยแพทย์ภายในห้องผ่าตัดที่ SAFE fertility Group โดยเป็นการใช้อัลตร้าซาวด์และเข็มดูดฟองไข่เพื่อนำเซลล์ไข่ออกมา ซึ่งมีการศึกษาออกมาว่าในขั้นตอนของการเก็บไข่ เมื่อได้ไข่มากกว่า 15 ใบต่อรอบ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเพราะทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงขึ้น
3. ขั้นตอนแช่แข็งไข่
เซลล์ไข่ที่ได้มานั้นจะถูกจัดเก็บในไนโตรเจนเหลว ที่มีอุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส ซึ่งเซลล์ไข่จะหยุดการทำงานไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งกระบวนการในห้องปฏิบัติการ (LAB) อยู่ภายใต้การดูแลของนักวิทยาศาสตร์
หลังจากเก็บไข่ อาจอาการปวดท้องเล็กน้อยซึ่งสามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอนได้ และมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย และจะหยุดไปเอง ภายใน 3-4 วัน ถ้ามีเลือดออกมากขึ้น และมีอาการปวดท้องมาก ให้มาพบแพทย์ ห้ามซื้อยารับประทานเอง รวมถึงแนะนำให้รับประทานไข่ขาวต้มวันละ 2-4 ฟอง รวมถึงดื่มน้ำเกลือแร่ วันละ 1-2 ขวด ประมาณ 5 วัน นอกจากนี้ให้งดเพศสัมพันธ์ ออกกำลังกาย การยกของหนัก และให้มาพบแพทย์ตามนัด
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดแล้วและถึงเวลาที่คุณผู้หญิงต้องการตั้งครรภ์ก็สามารถแจ้งความประสงค์ของตนเองกับทางคลินิกเพื่อนำไข่ที่ฝากไว้มาใช้ในการตั้งครรภ์ได้ โดยการใช้ไข่นี้สามารถนำไปใช้ได้ในการทำทั้ง IVF (In Vitro Fertilisation) และ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ด้วยการละลายเซลล์ไข่ที่แช่แข็งไว้ มาปฏิสนธิกับอสุจิ เพื่อให้เป็นตัวอ่อน (Embryo) แล้วจึงนำใส่โพรงมดลูกของคุณผู้หญิงเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์
แน่นอนว่าคุณผู้หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์ในอนาคตต้องมีคำถามนี้เกิดขึ้น หลังจากทราบขั้นตอนการฝากไข่ไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่คุณผู้หญิงควรทราบก็คือไข่ที่ฝากไว้นั้นมีความพร้อมต่อการปฏิสนธิและภายในห้องแล็บที่เก็บรักษาไข่ได้มีการควบคุมปัจจัยต่างๆ ของคุณภาพไข่ไว้อย่างดี แต่โอกาสการตั้งครรภ์นี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และอายุของคุณผู้หญิงด้วยเช่นกัน เพราะเมื่ออายุมากขึ้น โอกาสมีลูกก็จะยิ่งน้อยลง ฉะนั้นหลังการฝากไข่แล้ว SAFE Fertility Group เราขอเชิญชวนคุณผู้หญิงได้วางแผนตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
การฝากไข่เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนของการวางแผนตั้งครรภ์ในอนาคตที่สาวๆ ยุคใหม่และคุณผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ในปัจจุบันได้ให้ความสนใจมากขึ้นและต้องการฝากไข่ไว้กับคนที่สามารถดูแลได้ SAFE Fertility Group ขอเชิญชวนคุณผู้หญิงที่สนใจและวางแผนตั้งครรภ์ในอนาคตได้เข้ามาปรึกษากับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ แล้วให้นักวิทยาศาสตร์ดูแลไข่ที่ฝากไว้ และให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลส่วนตัวได้ดูแลคุณนะคะ
เรียบเรียงโดย: ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ SAFE Fertility Group
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า